อยากเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ทำอย่างไร

นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

การเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของคุณ นี่คือบางขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อเริ่มต้น

ศึกษาและเรียนรู้ : เริ่มต้นด้วยการศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดทุนและการลงทุนที่คุณสนใจ อ่านหนังสือ เรียนรู้จากเว็บไซต์ และติดตามข่าวสารทางการเงินเพื่อเข้าใจแนวโน้มและข้อมูลที่สำคัญในการตัดสินใจการลงทุนของคุณ

กำหนดเป้าหมาย : กำหนดเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจนและเป็นไปได้ ระบุวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่คุณต้องการให้การลงทุนของคุณสำเร็จ

สร้างแผนลงทุน : พิจารณากำหนดแผนลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ โดยพิจารณาความเสี่ยงที่คุณพร้อมรับและวิเคราะห์สมมติฐานต่าง ๆ

ความเสี่ยงและการควบคุมความเสี่ยง : การลงทุนมีความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงคุณควรดำเนินการด้วยการควบคุมความเสี่ยงที่เหมาะสม ด้วยการแยกแบบพอร์ตโฟลิโอ การลงทุนในทรัพย์สินที่แตกต่างกัน และการใช้เครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสม

การติดตามและปรับเปลี่ยน : ติดตามและปรับเปลี่ยนแผนลงทุนของคุณเมื่อมีความจำเป็น โดยพิจารณาข้อมูลและสถานการณ์ทางการเงินที่เปลี่ยนแปลง

เรียนรู้จากความสำเร็จและความล้มเหลว : รับรู้จากประสบการณ์การลงทุนที่ผ่านมา รวมถึงความสำเร็จและความล้มเหลว เพื่อปรับปรุงและพัฒนากลยุทธ์ในอนาคต

การเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จต้องการความตั้งใจ ความพยายาม และการศึกษาเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นคุณควรทำการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงของคุณอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจในการลงทุนแต่ละประเภท

ลงทุนเป็นนายหน้าอสังหาฯ ทำอย่างไรให้รวย

ลงทุนเป็นนายหน้าอสังหาฯ ทำอย่างไรให้รวย

หลายคนคิดว่าการลงทุนมีความเสี่ยงและมีต้นทุนสูงด้วย สำหรับคนที่กำลังคิดหาช่องทางการลงทุนที่ต่ำที่สุดแต่ให้ผลตอบแทนสูง มีโอกาสหาเงินได้จากหลายอาชีพ และหนึ่งในอาชีพที่หลายคนให้ความสนใจกันมากในปัจจุบันคือ นายหน้าบนโลกออนไลน์ ที่หลายคนทำแล้วรวย งานนี้เป็นอย่างไร ต้องทำอะไรบ้าง มาติดตามอ่านกันเลย

พูดถึงการเป็นนายหน้าเรียกได้ว่าเป็นการจับเสือมือเปล่า เช่น จะขายที่ดินก็ไม่ต้องมีที่ดินของตัวเองเลย เพียงชวนคนซื้อให้มาดูที่ดินของอีกคน พอขายได้แล้วก็รอรับตังค์ค่านายหน้า ถือเป็นอีกอาชีพสุดคลาสสิกที่น่าสนใจและไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่การเป็นนายหน้าในปัจจุบันไม่ได้จำกัดเฉพาะที่ดินเท่านั้น ยังรวมถึงการขายสินค้าออนไลน์หลายชนิด

นายหน้าอสังหาริมทรัพย์เป็นอาชีพสุดคลาสสิกที่ก้าวหน้ามากในโลกออนไลน์ยุคปัจจุบัน ใครๆ ก็สามารถเป็นตัวแทนขายได้ โดยประกาศโฆษณาหาผู้ซื้อได้ง่ายผ่านทางเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียหลายรูปแบบ รวมถึง Facebook,  Instagram และ Youtube ซึ่งแน่นอนว่ายังต้องมีการลงทุนอยู่บ้างในด้านการโฆษณาเพื่อให้ผู้ซื้อเกิดความสนใจและสอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม

อาชีพนายหน้าสร้างโอกาสเพิ่มรายได้ให้หลายคน ทั้งประกอบอาชีพหลักและทำเป็นอาชีพเสริมก็ได้ เมื่อขายที่ดินหรือขายบ้านได้ อัตราผลตอบแทนจากนายหน้าอยู่ระหว่าง 3%-10% ถือว่าไม่น้อยเลยจริงๆ การเป็นนายหน้าใช้เงินลงทุนไม่มาก ต้นทุนที่ต้องใช้ประกอบไปด้วยค่าโฆษณา ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำมัน รวมกันแล้วถือว่ามีค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับรายได้ต่อครั้ง ถือว่าคุ้มมากเมื่อเปรียบเทียบกับการเป็นนายหน้าเสนอขายสินค้าอย่างอื่น

นายหน้าที่ประสบความสำเร็จต้องมีไอเดียการขาย ใกล้ชิดกับข้อมูลและสามารถโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึง Facebook และ Youtube เพื่อให้เข้าตาลูกค้าที่กำลังค้นหาข้อมูลแหล่งที่จะซื้อและลงทุน ลูกค้าถามอะไรเราต้องตอบได้ การเป็นตัวแทนขายนอกจากจะรู้ลึกรู้จริงแล้วยังต้องใช้ภาษาได้ดี ครีเอทคอนเทนต์ที่น่าสนใจ มีเทคนิคการเจรจาต่อรองซึ่งเป็นความสามารถพิเศษของนายหน้า และทำตัวให้น่าเชื่อถือด้วย 

จากคำพูดที่ว่า นายหน้าอสังหาฯ เป็นการจับเสือมือเปล่า อาจไม่ตรงความหมายเสียทีเดียว เพราะต้องลงทุนในเรื่องข้อมูลเยอะ มีต้นทุนการดำเนินงานและช่องทางการตลาดให้ถึงกลุ่มลูกค้า แต่ถ้าเทียบกับรายรับแล้วเป็นการลงทุนที่คุ้มมาก

การเป็นนายหน้าอสังหาฯ อาจมีรายได้ไม่แน่นอน กว่าจะขายที่หรือบ้านได้แต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายในยุคปัจจุบัน เจ้าของที่บางรายอาจขายตกลงกันเองกับผู้ซื้อที่นายหน้าแนะนำ เรียกว่าสุดท้ายตกลงขายกันเองโดยไม่ผ่านคนกลาง การเป็นตัวแทนนายหน้าจึงควรเป็นอาชีพเสริมเนื่องจากรายได้ไม่แน่นอน ควรเรียนรู้กฎหมายเพื่อให้รับมือกับการซื้อการโอนที่อยู่อาศัยที่อาจมีข้อติดขัดเกิดขึ้นได้ ไม่มีใครเกิดมาเป็นนักขายโดยตรง แต่ก็มีหลายคนที่พาตัวเองเข้าสู่เส้นทางอาชีพนายหน้าและได้เงินเยอะ โดยสรุปแล้วยิ่งทำงานแบบมืออาชีพ ทุ่มเทเวลาทำงานเต็มที่ ก็มีโอกาสรวยเร็วได้

มือใหม่หัด ลงทุน อะไรดี ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

ปัจจุบันการฝากเงินเพื่อกินดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวอาจให้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่ามากเท่าใดนัก โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อที่นับวันยิ่งจะสูงขึ้น จึงมีหลายคนต่างคิดและแสวงหาการ ลงทุน เพื่อให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจมีชีวิตที่ดีและสามารถเกษียณได้อย่างมีคุณภาพ

การลงทุน มีความเสี่ยงเสมอ?

จริงหรือไม่ที่มีคนบอกว่าการ ลงทุน มีความเสี่ยงเสมอ คำตอบคือ จริง! โดยเฉพาะการลงทุนโดยปราศจากความรู้ แม้แต่การฝากเงินในธนาคารยังเสี่ยงเลย ลองนึกภาพการฝากเงินไว้ในบัญชีธนาคาร 100,000 บาท แล้วได้อัตราดอกเบี้ย 0.25 สิ้นปีจะได้ดอกเบี้ยเพียง 250 บาท เท่านั้น หากมองในมุมนักลงทุนที่มีความรู้การลงทุน 1 แสนบาทแล้วได้กำไรเพียง 250บาท/ปี ถือเป็นการลงทุนที่ล้มเหลวและมีความเสี่ยงมาก จึงอดคิดไม่ได้ว่าแล้วจะลงทุนอะไรดีใรสภาพเศรษฐกิจแบบนี้

ก่อนที่จะไปลงทุนในสิ่งต่างๆ ที่มักจะมี เค้า บอกว่าให้ผลตอบแทนดี เดือนละ 10-20% หรือคืนทุนภายใน 3-5 เดือน ที่เหลือเป็นกำไร ควรศึกษาหรือหาข้อมูล ความรู้ ของสิ่งที่จะไปลงทุนเสียก่อน ยอมเสียเวลาสักนิดเพื่อที่จะได้ไม่เสียใจในภายหลัง

แล้ว ลงทุน อะไรดี ที่ให้ผลตอบแทนสูง

การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงย่อมแลกมากับความทุ่มเททั้งแรงกายและแรงเงิน เพราะอยู่ดี ๆ คงไม่มีใครนำเงินลงทุนจำนวนมากมาให้ได้ง่าย ๆ นอกจากมิจฉาชีพ

  1. ลงทุนขายของ

การขายของหรือขายสินค้า ใช่ว่าใครจะสามารถขายแล้วทำให้รวยหรือมีกำไรในพริบตา หากแต่ต้องศึกษาสินค้าและทำการตลาดอย่างหนักหน่วงจึงจะประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นจงมองไปที่เทรนและส่วนต่างระหว่างต้นทุนกับกำไร หากได้ทำเลดี มีทักษะการขายเยี่ยม บอกเลย ยอดขายปัง

  1. ลงทุนในหุ้น

เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงถึงขั้นหมดตัวได้ เนื่องจากการลงทุนในหุ้นจะต้องเป็นคนที่ศึกษาหาความรู้ในการอ่าน วิเคราะห์และศึกษาในเรื่องของงบการเงินตลอดจนวิเคราะห์ตลาดออกว่าทิศทางของหุ้นที่สนใจนั้นจะวิ่งไปในทิศทางใดและหากราคาถึงเป้าหมายจะทำอย่างไร เพราะต่อให้หุ้นดี งบสวย มีความมั่นคง ราคาอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็เป็นได้

  1. กองทุนรวม

เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการนั่งวิเคราะห์หุ้นด้วยตนเอง แต่ต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอ แม้จะน้อยกว่าการเล่นหุ้นด้วยตนเอง แต่ก็ปลอดภัยในระดับหนึ่ง เพราะกองทุนรวมจะมีผู้จัดการกองทุนที่ของวิเคราะห์และคัดกรองหุ้นมาเข้าพอตตามวัตถุประสงค์ของการตั้งกองทุนอยู่ก่อนแล้ว จึงทำให้นักลงทุนมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นด้วยตนเอง

  1. ฟอเร็กซ์ 

การซื้อขายเงินตราและทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยน แม้จะให้ผลตอบแทนที่สูงแต่ก็มีความเสี่ยงสูงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะคนที่ปราศจากความรู้ การโอเวอร์เทรด ทำให้หลายคนหมดตัวกับการลงทุนในฟอเร็กซ์นี้ หากต้องการฝึกและลงทุนในอัตราแลกเปลี่ยน ลองนึกถึงการแลกเงินไปต่างประเทศที่สนามบินหรือสถาบันที่รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศดูว่าคุณจะสามารถทำกำไรจากการแลกเปลี่ยนนี้ได้หรือไม่ หากทำได้ค่อยขยับไปลงทุนในฟอเร็กซ์ที่เป็นตลาดเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

ไม่ว่าคุณจะลงทุนในกิจการใด ลงทุนแบบไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความรู้ รู้ในสิ่งที่จะลงทุน รู้ที่จะตัดการขาดทุน รู้ที่จะรักษาผลกำไรและรู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ เพราะคนมากกว่า 90% ที่ล้มเหลวจากการลงทุนมักจะไม่รู้และไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนเองลงทุน 

ค่านิยมเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อการลงทุนในทองคำ

ค่านิยมเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อการลงทุนในทองคำ

การลงทุนในทองคำนั้น ถือเป็นความนิยมสำหรับการป้องกันความเสี่ยงใด ๆ ก็ตาม อันอาจจะเกิดจากความผันผวน หรือความเปลี่ยนแปลงในเชิงเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเกิดจากปัญหาความไม่มีเสถียรภาพของสกุลเงิน ปัญหาอัตราเงินเฟ้อ หรือแม้แต่ปัญหาเศรษฐกิจถดถอยในภาวะสงคราม การลงทุนในทองคำ จึงถือได้ว่าเป็นการออมซึ่งจะสร้างมูลค่าในระยะยาวได้อย่างปลอดภัย และมั่นคงประเภทหนึ่งเลยทีเดียว

ค่านิยมเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อการลงทุนในทองคำ

เมื่อพูดถึงการลงทุนในทองคำแท่งสำหรับนักลงทุนที่คุ้นเคยกับการซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะออนไลน์ การลงทุนในทองคำแท่ง ก็จะมีลักษณะเป็นการลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่งนักลงทุนก็จะต้องประสานติดต่อกับโบรกเกอร์แบบดั้งเดิม โดยที่นอกเหนือจากที่คุณทำการซื้อขายทองคำแท่งแล้ว คุณก็จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการจัดเก็บ และการประกันในการลงทุนทองคำแท่งของคุณอีกด้วย

การลงทุนในทองคำแท่ง

สำหรับการลงทุนในทองคำแท่งนั้น จะมีมาให้เลือกในรูปแบบที่นิยมกัน ก็คือ เป็นแท่งทองคำในขนาด 10 ออนซ์ จนถึงแท่งทองคำในขนาด ประมาณ 400 ออนซ์ และราคาปัจจุบันของทองคำแท่ง ก็จะผันผวนขึ้นลงไปตามราคาตลาด 

การลงทุนในทองคำแท่งจะเป็นสิ่งที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ดังนั้นคุณจำเป็นจะต้องใช้โบรกเกอร์ซึ่งเลือกมีชื่อเสียง และมีความน่าเชื่อถือ เพราะคุณจะต้องคำนึงถึงเรื่องของการจัดส่ง การประกันภัย หรือแม้แต่บริการห้องนิรภัยหรือตู้นิรภัยขนาดใหญ่ ในกรณีที่คุณไม่ต้องการที่จะเก็บรักษาทองคำแท่งไว้กับตัว 

การลงทุนในทองคำแท่ง จะเป็นลักษณะการลงทุนในทองคำที่ตรงไปตรงมา เรียบง่าย และได้รับความนิยมเสมอมา คุณเพียงแค่ติดตามราคาขึ้นลงของทองคำแท่งในตลาด ซื้อทองคำแท่งมาเมื่ออยู่ในระดับราคาที่คุณพอใจ และขายทองคำแท่งไป เมื่ออยู่ในระดับราคาที่สร้างกำไรให้กับคุณเอง 

แต่ทั้งนี้ราคาของทองคำแท่งนั้น ย่อมจะไม่มีการผันผวนได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นผู้ที่เลือกที่จะลงทุนในทองคำแท่ง จึงเหมาะกับผู้ที่มีเงินเย็น หรือสามารถใช้เงินสดชำระมูลค่าทองคำแท่งได้เต็มจำนวน หรือไม่ต้องกู้ยืมเพื่อนำมาชำระเป็นค่ามูลค่าทองคำแท่งนั่นเอง เพราะหากเป็นการกู้ยืมมาเพื่อลงทุนทองคำแท่ง ก็ย่อมจะไม่คุ้มกับค่าดอกเบี้ยซึ่งคุณจะต้องแบกรับ

เงินสดจะมูลค่าลดลงเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ แต่ทองคำจะมูลค่าเพิ่มขึ้นไปตามกาลเวลา นอกจากนั้นราคาทองคำมักจะเป็นสัดส่วนผกผันกับตลาดการลงทุนอื่น ๆ เมื่อใดก็ตามที่ตลาดหุ้นตก ราคาทองคำจะสูงขึ้นและนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมการลงทุนทองคำจึงเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย ในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นเกิดภาวะผันผวนและราคาหุ้นดิ่งลง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น พากันย้ายสินทรัพย์ออกไปยังทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ซึ่งพวกเขายกย่องให้ทองคำนั้นถือเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัย ดังนั้นหากคุณมองผลตอบแทนในระยะเวลายาว ๆ การลงทุนในทองคำจึงตอบโจทย์ของคุณมากที่สุดแล้ว

อัปเดตเทรนด์การลงทุนสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย เริ่มต้นไว เกษียณอายุเร็ว

อัปเดตเทรนด์การลงทุนสำหรับนักศึกษา

“การลงทุน” เครื่องมือที่ช่วยสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว ยิ่งวางแผนการใช้เงินเร็วเท่าไหร่ยิ่งทำให้มีโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันการลงทุนจึงกลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงง่ายทำให้นักศึกษามหาวิทยาลัยก็สามารถเริ่มต้นวางแผนการเงินและการลงทุนได้ 

  1. เครื่องมือลงทุนสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย
  1. การลงทุนแบบ Passive Income การลงทุนแบบ Passive income เป็นเทรนด์ยอดนิยมในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัย เพราะเป็นการลงทุนที่สามารถเลือกการใช้เงินทุนและเลือกความเสี่ยงได้ตามฐานะทางการเงินของตัวเอง เช่น การออมเงินในบัญชีเงินฝาก, เงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล, ประกันสะสมทรัพย์, ตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมตราสารหนี้, อสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนรวมอสังหาฯ และหุ้น หรือกองทุนรวมหุ้น
  1. การลงทุนที่รับผิดชอบต่อสังคม (Socially Responsible Investment : SRI) เป็นกองทุนที่มุ่งเน้นลงทุนในกิจการที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนตามหลักสากล เช่น SDGs UN Global Compact เป็นต้น เช่น นโยบายการลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน กลยุทธ์การลงทุน ผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยจุดเด่นในการลงทุน SRI Fund คือ เป็นการลงทุนในหลักทรัพย์ของกิจการที่เน้นความยั่งยืนเป็นหลักและเป็นการลงทุนที่ช่วยผลกระทบเชิงบวกทางสังคม พร้อมทั้งได้ผลประโยชน์จากเงินปันผลด้วย
  1. สกุลเงินดิจิทัล Cryptocurrency สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin หรือ Ethereum ฯลฯ เป็นการลงทุนที่มีได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบันเนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนสูง แต่มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงเช่นกัน ผู้ที่สนใจควรศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อนลงทุน

สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยที่รู้แล้วว่าอยากลงทุนในเครื่องมือแบบไหน หรือเครื่องมือแบบไหนตอบโจทย์กำลังทรัพย์ของตัวเอง เคล็ดลับการลงทุนต่อไปนี้จะทำให้นักศึกษาในวันนี้กลายเป็นคนสูงวัยที่สุขสบายในวันหน้า

3 เคล็ดลับการลงทุนของนักศึกษามหาวิทยาลัย

  • การลงทุนไม่ต้องเยอะ แม้ว่าจะมีนักศึกษาจำนวนมากที่มีกำลังทรัพย์พอต่อการลงทุนในเครื่องมือที่มีความเสี่ยงสูงได้ แต่หากยังไม่เคยลงทุนมาก่อนควรเริ่มจากการลงทุนด้วยเงินทุนที่ไม่เยอะเกินไป เช่น 500 – 1,000 บาท/เดือน เป็นต้น เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในแต่ละขั้นตอนของการลงทุน รวมถึงการลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อย ๆ แต่สามารถลงทุนต่อเนื่องในระยะยาวย่อมส่งผลดีมากกว่า 
  • กระจายความเสี่ยง ควรทดลองลงทุนในเครื่องมือที่มีความหลากหลาย เช่น หุ้น พันธบัตรและสินทรัพย์อื่นๆ เพราะนอกจากจะทำให้เข้าใจเครื่องมือในการลงทุนแต่ละแบบมากขึ้นยังเป็นการกระจายความเสี่ยงด้วย
  • เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน ในปัจจุบันความรู้เรื่องการลงทุนไม่ใช่เรื่องที่เข้าถึงยากอีกต่อไป เพราะเราสามารถเรียนรู้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้ เช่น Youtube, Facebook, Tiktok หรือ Twitter เป็นต้น ความรู้เรื่องการลงทุนจะทำให้เกิดการตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้นและทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ดียิ่งกว่าเดิม

การลงทุนเป็นเครื่องมือช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต แต่ควรลงทุนต่อเนื่องในระยะยาว ทำให้การเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่ตอนที่เป็น

ลงทุน อะไรดีในปี กระต่ายทอง

ลงทุน อะไรดีในปี กระต่ายทอง

ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาภาคเศรษฐกิจและการลงทุนเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ มากมาย ทำเอาหลายกิจการล้มหายไปหลายแห่ง ไม่เว้นแม่กระทั่งยักษ์ใหญ่หลายที่ที่ดูมีความมั่นคง แม้ว่าในช่วงท้ายปี 2565 สถานการณ์โควิดจะคลี่คลาย หากหลายกิจการไม่คิดปรับตัวก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ โดยในปีกระต่ายทองนี้ ถือเป็นปีแห่งการลงทุนอย่างแท้จริง เพราะหลายประเทศเริ่มจะผ่อนคลายในมาตรการการแพร่ระบาดของโรค จึงมีการสำรวจเกิดขึ้นว่าในปี 2566 นี้จะลงทุนอะไรดีให้มีผลกำไรยอดขายปัง ๆ ได้ ไปหาคำตอบกัน

  1. ค่าเงิน

หากจะกล่าวถึง ฟอเร็กซ์หลายคนคงรู้จักและเชื่อได้ว่ามากกว่า 80% ต้องไม่กล้าลงทุนเพราะที่ผ่านมา มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องขาดทุนและโดนโกง ซึ่งจริง ๆ แล้วการลงทุนใน ค่าเงิน สามารถที่ลงทุนด้วยตนเองง่าย ๆ เพียงไปยังสถานที่รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แลกสกุลเงินไทยกับสกุลเงินหลักของโลก เช่น ดอลลาร์สหรัฐ, เยน ญี่ปุ่น, ปอนด์สเตอริง อังกฤษและยูโร จากนั้นเพียงรอราคาที่ค่าเงินบาทอ่อนก็สามารถที่จะนำไปขายได้ ซึ่งค่าเงินบาท ณ ปัจจุบัน (23/1/2023) แข็งตัวที่ระดับ 32.68 บาท/ดอลลาร์ สหรัฐ หลังจากในช่วงปีที่แล้วอ่อนตัวไปแตะที่ระดับ 38-39 บาท/ดอลล่า สหรัฐมาแล้ว

  1. ทองคำ

หลังจากที่ทำราคาจุดสูงสุดในปี 2020 ที่สามารถขึ้นไปแตะที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์และราคาทิ้งตัวลง ใคร ๆ ต่างก็ประเมินว่าราคาทองคำจะร่วงลงไปที่ระดับต่ำกว่า 1500 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ไม่ใช่อย่างที่หลายคนคิด หลังจากที่ราคามีการปรับตัวทำ Sideway ออกข้างและพยายามดีดกลับขึ้นมาในระดับ 1800-1900 ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานี้ เป็นไปได้ว่าปีนี้อาจเป็นปีของทองคำก็เป็นได้ แม้สถานการณ์ดอกเบี้ยโลกที่เพิ่มสูงขึ้น แต่อย่าลืมว่าหนี้ของแต่ละประเทศก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน การที่แต่ละประเทศหันไปตุนทองจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

  1. หุ้น

เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ร้อนแรงมากที่สุดในช่วงผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 โดยเฉพาะบรรดา VI และนักลงทุนที่มีเงินสดในกระเป๋า ณ ช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นลงไปแตะที่ 900 จุด ผ่านมา 2 ปี ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยกลับมายืนที่ระดับ 1600-1700 จุดได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยไปแตะที่ระดับ 1800 จุด กันมาแล้ว หรือมีการปรับตัวขึ้นมากกว่า 100% แต่นักลงทุนควรเลือกหุ้นด้วยความระมัดระวัง เพราะดัชนีมีการปรับตัวขึ้นมาสูงมากแล้วนั่นเอง

  1. ความรู้

ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอะไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ทุกคนควรใส่ใจและให้ความสำคัญมากที่สุดนั่นก็คือ การลงทุนในความรู้ เพราะการที่ทุกคนมีความรู้ย่อมมีภาษีดีกว่าคนที่ไม่รู้อะไรเลย สังเกตจากในช่วงที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับคนโดนหลอกให้ไปลงทุนจำนวนมาก โดยที่ไม่รู้เลยว่าการลงทุนเหล่านั้นเป็นของจริงหรือไม่และมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด 

สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะลงทุนอะไรก็ตาม ให้พิจารณาถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเสมอและให้นึกถึงกรณีที่ต้องขาดทุนแบบหมดตัวด้วยว่าจะต้องทำอย่างไร เพราะหลายคนมองแต่ภาพการลงทุนที่สวยหรู รับกำไรเพียงอย่างเดียว จนลืมไปว่าหากขาดทุนจะต้องทำอย่างไร

อยากลงทุนต้องสร้างแรงบันดาลใจด้วย 3 วิธีออกจากเซฟโซน

อยากลงทุนต้องสร้างแรงบันดาลใจด้วย 3 วิธีออกจากเซฟโซน

การลงทุนถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการบริหารเงินให้เกิดผลกำไร เพราะการเก็บเงินไว้เฉย ๆ ไม่ได้เกิดประโยชน์ใด ๆ แต่เชื่อว่าหลายคนก็มีความกังวลไม่น้อย ด้วยเหตุผลที่ว่าขาดความรู้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก และหลายคนเชื่อว่าการมีเงินสดติดตัวนั้นดีที่สุด แต่หากคุณไม่ออกจากเซฟโซนก็ไม่อาจเติบโตได้ ฉะนั้นหากคุณอยากทำให้เงินที่มีอยู่ในมืองอกเงยลองศึกษาจากข้อมูลที่เรานำมาวันนี้ 

  1. นึกและทบทวนเป้าหมาย การเริ่มต้นทำทุกอยางจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าเป้าหมายคืออะไร เพื่อให้การเดินทางไปสู่จุดหมายนั้นมีภาพที่ชัดเจน อย่างเช่น ภายในระยะเวลา 5 ปี คุณจะต้องทำกำไรให้ได้ 5 ล้านบาทจากการลงทุน หรือจะต้องเก็บเงินให้ได้สักก้อนเพื่อซื้อบ้าน เป็นต้น จึงชัดเจนแล้วว่าเป้าหมายมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการตัดสินใจลงทุน
  2. เช็กสถานะการเงินของตัวเอง แม้ว่าการลงทุนจะทำให้คุณได้รับผลกำไรตอบแทนไม่ว่ามากหรือน้อยก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถตัดสินใจทำได้ เพราะหากคุณไม่ได้กันเงินไว้บางส่วนก็อาจมีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของคุณได้ ฉะนั้นควรเช็กค่าใช้จ่ายก่อนว่าเพียงพอหรือไม่หากนำเงินบางส่วนไปลงทุน ถัดมาควรเช็กในส่วนของเงินฉุกเฉินเพราะเมื่อใดก็ตามหากคุณตกงานกะทันหันหรือไม่สบาย เงินส่วนนี้จะเป็นตัวช่วยและทำให้มีทุนสำหรับการลงทุน สุดท้ายที่เราอยากแนะนำคือการลงทุนควรเป็นเงินเย็นที่เมื่อนำไปใช้แล้วจะไม่สร้างความเดือดร้อนภายหลัง
  3. ศึกษาก่อนลงทุน เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนและเงินทุนที่พร้อม สิ่งต่อไปที่จะขาดไม่ได้เลยคือความรู้ความเข้าใจในการลงทุนนั้น ๆ ซึ่งสามารถศึกษาในรูปแบบของหนังสือ เข้าร่วมสัมมนาและสื่อออนไลน์ต่าง ๆ  ซึ่งมีทั้งแบบบริการให้ข้อมูลฟรีและมีค่าบริการด้วย หรือเพิ่มความมั่นใจด้วยการศึกษาจากผู้ที่มีประสบการณ์จริงก็ถือเป็นข้อมูลที่ไม่ควรมองข้าม 
  4. ซื้อทองคำแท่ง เป็นสินทรัพย์ที่หลายคนเลือกลงทุน เพราะสามารถซื้อขายง่าย ที่สำคัญนำไปจำนำได้อีกด้วย ด้วยความที่ทองเป็นสิ่งที่เราเข้าถึงได้ง่ายที่สุด อีกทั้งตัวทองคำแท่งเมื่อนำไปขายจะมีค่าบล็อกถูกกว่าค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ จึงไม่ใช่เรื่องยากหากหลายคนเลือกลงทุนกับสิ่งนี้ 

การลงทุนทั้งทีไม่ควรตัดสินใจเพราะอยากได้กำไรหรือเพื่อนชักชวนเท่านั้น คุณเองต้องศึกษาทั้งข้อมูลและเช็กสถานะทางการเงินของตัวเองว่ามีความพร้อมแค่ไหน หากคุณมีสิ่งเหล่านี้ครบพร้อม แม้ว่าการลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่เชื่อว่าผลกำไรหรือเป้าหมายที่คุณวางไว้จะสำเร็จได้ไม่ยาก 

เช็กลิสต์ 3 สิ่งมือใหม่ต้องรู้ ก่อนตัดสินใจเล่นหุ้น

เช็กลิสต์ 3 สิ่งมือใหม่ต้องรู้ ก่อนตัดสินใจเล่นหุ้น

หากพูดถึงการลงทุนในปัจจุบัน ‘การเล่นหุ้น’ ยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ทุกคนสนใจ เพราะหากเราลงทุนในหุ้นที่ดีก็มีโอกาสทำกำไรจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับเงินปันผลจากหุ้นที่เราซื้อไว้อีกด้วย 

การลงทุนในหุ้น หมายถึง การซื้อหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยการลงทุนในหุ้นนั้น คุณหวังว่าบริษัทจะเติบโตเมื่อเวลาผ่านไป และเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น หุ้นที่คุณถือไว้อาจมีมูลค่ามากขึ้น  นั่นหมายความว่าคุณสามารถทำกำไรได้หากคุณตัดสินใจขายหุ้นนั่นเอง วันนี้จึงชวนมาเปิดวิธีเบื้องต้น สำหรับมือใหม่ที่ต้องการลงทุน ว่าพื้นฐานที่เราควรรู้ก่อนเริ่มเล่นหุ้นมีอะไรบ้าง

  1. รู้จักตนเอง 

สำหรับมือใหม่เริ่มลงทุนสิ่งนี้สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้คุณโฟกัสกับตัวเองได้ว่าเป้าหมายการลงทุนของเราคืออะไร ต้องการออมเงินมากน้อยแค่ไหน จากนั้น จึงมาประเมิน “เงื่อนไขการลงทุน” เช่น อายุของเรา ถนัดสินทรัพย์ประเภทไหน มีประสบการณ์ลงทุนหรือไม่ ต้องการผลตอบแทนรูปแบบใด  และประเด็นสำคัญสำหรับการลงทุนในหุ้น  คือ ต้องรู้ตัวว่าเรา “ยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน?” เพราะสิ่งนี้ล้วนมีผลต่อการลงทุนของเราทั้งสิ้น เนื่องจากตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน อาจมีหุ้นขึ้น หรือลง ได้ตามการแปรผันของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมด้วยเช่นกัน

  1. ศึกษาข้อมูลหุ้นที่สนใจ

ข้อนี้เป็นหนึ่งปัจจัยสำหรับมือใหม่ที่จำเป็นต้องศึกษาหุ้นที่คุณสนใจอย่างละเอียดลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อมูลของบริษัทฯ ที่จะเข้าไปซื้อหุ้น ได้แก่ ประเภทธุรกิจ, ภาวะตลาด, โมเดลธุรกิจ, ผลประกอบการย้อนหลังของบริษัท และอื่น ๆ รวมถึงไม่ลืมที่จะติดตามความเคลื่อนไหว ข่าวสาร ของหุ้นนั้น ๆ ว่ามีทิศทาง หรือปัจจัย ที่อาจได้รับผลบวก หรือผลกระทบอย่างไรในปัจจุบันและอนาคต

  1. สร้างพอร์ตที่เหมาะกับตนเอง

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มือใหม่ควรรู้ นั่นคือคุณต้องสร้างและจัดการพอร์ตที่เหมาะกับตัวของคุณเอง โดยต้องกระจายความเสี่ยงได้อย่างสมดุล และต้องไม่ลืมที่จะเลือกหุ้นที่คุณมองเห็นว่าเหมาะสมกับสไตล์การเล่นหุ้นของคุณ กล่าวคือ หากคุณเป็นสายเก็งกำไร ก็อาจจะศึกษาลงทุนหุ้นที่กำลังมีแนวโน้มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณเป็นสายเน้นปันผล ไม่ค่อยมีเวลาติดตาม ก็อาจจะเลือกลงทุนหุ้นที่มีความมั่นคงในระยะยาว และให้เปอร์เซ็นต์ตอบแทนปันผลที่ดี เพื่อสอดคล้องกับความต้องการลงทุนของคุณได้ตามต้องการ

ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า ‘การลงทุนมีความเสี่ยง’ เพราะฉะนั้นสิ่งที่นักลงทุนมือใหม่อย่างเราทำได้ คือการศึกษาพื้นฐานของหุ้นอย่างละเอียด รู้จักแนวทางของตนเอง และไม่ลืมที่จะคอยเติมความรู้ใหม่ ๆ ในการลงทุนเสมอ รับรองว่าคุณจะสามารถประสบความสำเร็จในการลงทุนได้ไม่ยาก

สิ่งที่นักลงทุนหน้าใหม่ควรรู้ก่อนเริ่มลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง

สิ่งที่นักลงทุนหน้าใหม่ควรรู้ก่อนเริ่มลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง

จากแหล่งข้อมูลมากมายทั้งในอินเทอร์เน็ตและในหัวข้อข่าวต่าง ๆ ทำให้หลาย ๆ คนอาจจะเห็นนักลงทุนที่เก่ง ๆ สร้างความมั่งคั่งจากการลงทุนในหุ้น หรือลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และพากันคิดไปเองว่าเป็นเรื่องง่าย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าทุกการลงทุนนั้นจะมีความเสี่ยง นักลงทุนที่เก่งกาจจะมีเป้าหมายของตนเอง และกำหนดกรอบของระดับความเสี่ยงซึ่งตนเองจะยอมรับได้เสมอ นอกจากนั้นพวกเขาจะใช้กลยุทธ์ที่เหมาะกับสไตล์การลงทุนของตนเอง เพื่อให้การลงทุนประสบผลสำเร็จ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปนัก

สิ่งที่นักลงทุนหน้าใหม่ควรรู้ก่อนเริ่มลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง

คุณเองก็สามารถเป็นนักลงทุนผู้เก่งกาจ และสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเองได้เช่นเดียวกัน โดยอาศัยเทคนิค 4 ประการ ซึ่งเราจะนำเสนอให้ต่อไปนี้ เพื่อให้นักลงทุนหน้าใหม่เริ่มการลงทุนของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เเละทำกำไรจากการลงทุนได้สำเร็จเช่นเดียวกัน

  1. ก่อนเริ่มการลงทุน สิ่งแรกที่คุณควรจะทำก็คือ เรียนรู้เรื่องของตลาดหุ้นให้ถ่องแท้ และเมื่อคุณรู้จักและเข้าใจการซื้อขายหลักทรัพย์จนแตกฉานแล้ว คุณก็จะสามารถเอาชนะความกังวลและเริ่มต้นการลงทุนของคุณได้อย่างคุ้มค่า ความมีวินัยและความมุ่งมั่นที่จะไม่หยุดการเรียนรู้ ย่อมจะทำให้คุณบรรลุเป้าหมายที่วางเอาได้แน่นอน
  1. ในช่วงเริ่มต้นนั้น ถ้าคุณเลือกขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ จะถือว่าเป็นการตัดสินใจเลือกที่ฉลาดมาก ๆ คำแนะนำจากที่ปรึกษาย่อมจะช่วยลดความผิดพลาด และประสบการณ์ของที่ปรึกษา จะทำให้คุณสามารถเรียนรู้ได้อย่างก้าวกระโดด และนี่คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่อย่างแท้จริง
  1. จงเลือกการลงทุนโดยการสร้างพอร์ตโฟลิโอซึ่งเหมาะกับสไตล์ตนเอง เพราะนักลงทุนแต่ละคนนั้นย่อมจะสามารถรับความเสี่ยงในการลงทุนได้แตกต่างกัน คุณควรเลือกระดับความเสี่ยงซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ทางการเงิน และสไตล์ของคุณ ซึ่งจะช่วยลดระดับความเครียด และทำให้การลงทุนของคุณเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากกว่า
  1. คุณต้องมีวินัยที่จะซื้อขายอย่างเป็นระบบ พยายามปรับแต่งพอร์ตการลงทุนของคุณให้สมดุลอยู่เสมอ ตามจังหวะความเป็นไปของตลาดหุ้น และติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด พยายามกระจายความเสี่ยง โดยเลือกแบ่งลงทุนในหุ้นที่มีลักษณะเป็นหุ้นต้นทุนต่ำ หรือแบ่งลงทุนในหุ้นระยะยาวบ้าง เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเหตุฉุกเฉินซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ตลาดหุ้นตกด้วยเหตุไม่คาดฝัน อย่างเช่นสถานการณ์ไวรัสระบาดเป็นต้น

เห็นไหมว่า หากคุณเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ การที่จะสร้างความมั่งคั่งจากการลงทุนให้กับตนเองนั้น ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ลองนำวิธีการและเทคนิคที่เรานำเสนอนี้ไปลองปรับใช้กับการลงทุนของคุณ เราเชื่อแน่ว่าคุณเองก็จะประสบความสำเร็จในการลงทุนได้เช่นเดียวกัน

ลงทุนยังไงให้เงินงอกงาม ไปแพ้อัตราเงินเฟ้อ

ลงทุนยังไงให้เงินงอกงาม ไปแพ้อัตราเงินเฟ้อ

เงินเฟ้อคือภาวะที่เรามีเงินจำนวนเท่าเดิม แต่ราคาสินค้าแพงขึ้น จึงทำให้ไม่สามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้ สิ่งนี้ถ้าจะให้สรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ หมายความว่าเงินมีมูลค่าน้อยลงนั่นเอง ซึ่งอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันพุ่งสูงแบบหยุดไม่อยู่ ซึ่งการเก็บเงินฝากบัญชีออมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ยแสนต่ำ จึงไม่สามารถรักษามูลค่าของเงินเอาไว้ได้ แต่วิธีที่จะชนะกลไกนี้ยังมีอยู่ด้วยการลงทุนทั้ง 5 แบบต่อไปนี้

  1. ฝากประจำปลอดภาษี

การนำเงินไปฝากประจำจะมีโอกาสได้ดอกเบี้ยมากกว่าฝากเงินออมทรัพย์แบบปกติ ความเสี่ยงในการสูญเสียเงินต้นต่ำ แต่สภาพคล่องจะต่ำกว่าเงินฝากออมทรัพย์อย่างแน่นอน ดังนั้นใครที่มีเงินเย็น ไม่ได้มีแผนระยะสั้นที่จะนำไปใช้ สามารถเลือกบัญชีแบบนี้ได้ ระยะเวลามีตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป นอกจากนั้นอย่าลืมเลือกบัญชีที่ปลอดภาษี จะได้รักษาผลประโยชน์จากเงินฝากเอาไว้ได้แบบครบถ้วน

  1. ซื้อกองทุนรวม

กองทุนรวมเป็นการนำเงินจากนักลงทุนหลาย ๆ คนมาลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ หรือเทคโนโลยี ข้อดีคือมีการกระจายความเสี่ยง แถมสามารถลงทุนได้ตั้งแต่ยอดเงินน้อย ๆ ซึ่งผลตอบแทนโดยประมาณมักจะชนะเงินเฟ้อ แต่การลงทุนวิธีนี้มีโอกาสที่จะขาดทุนจนเสียเงินต้นได้เช่นกัน จึงต้องศึกษาข้อมูลเพื่อเลือกกองทุนที่ตนเองรู้สึกเชื่อมั่นมากที่สุด

  1. ลงทุนในหุ้น

การซื้อหุ้นรายตัวคือการซื้อหุ้นของบริษัทที่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมเงินจากคนทั่วไปมาใช้ในการลงทุน ซึ่งถ้าบริษัทมีการเติบโต หุ้นที่เราซื้อไว้จะมีราคาสูงขึ้นไปด้วย และจะทำให้ได้ผลตอบแทนจากตรงนี้เป็นจำนวนมาก แต่แน่นอนว่าการลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงเช่นกัน จึงต้องศึกษาบริษัทที่ต้องการลงทุนให้ดีว่ามีศักยภาพในการเติบโตอย่างแน่นอน

  1. ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

อสังหาริมทรัพย์อย่างบ้าน ที่ดิน หรือคอนโด ในปัจจุบันมีราคาพุ่งสูงขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาสั้น ๆ จึงทำให้การซื้ออสังหาเพื่อเก็งกำไรเป็นอีกช่องทางในการรักษามูลค่าของเงินไว้ ซึ่งถ้าหากเลือกซื้อในทำเลที่ดี มีมาตรฐานในการก่อนสร้างเหมาะสม จะมีโอกาสเติบโตสูง แต่การลงทุนในทรัพย์สินขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนในปริมาณมาก จึงต้องมั่นใจว่าจะมีเงินเย็นมากเพียงพอที่จะลงทุนได้

  1. ซื้อสินทรัพย์อย่างทองคำ

ทองคำเป็นอีกทรัพย์สินที่มีราคาเพิ่มขึ้นไม่แพ้เงินเฟ้อ ลองนึกภาพสมัย 10 ปีที่แล้วราคาทองคำอยู่ที่ประมาณบาทละ 20,000 บาท แต่ในปัจจุบันราคาพุ่งไปถึง 30,000 บาทแล้ว เพราะคนให้ความมั่นใจในคุณค่าของทองคำ แถมยังเป็นทรัพย์สินที่ซื้อขายได้ในสากล ดังนั้นการมีทองสะสมไว้บ้าง จึงไม่ใช่เรื่องน่าเสียดายแม้แต่น้อย

การลงทุนให้ชนะเงินเฟ้อจะทำให้สามารถรักษาความมั่งคั่งที่มีเอาไว้ได้ จึงต้องมองเป้าหมายในการลงทุนและลองเปรียบเทียบวิธีการที่สนใจด้วยตัวเอง อย่าลืมให้ความสำคัญกับความเสี่ยงต่าง ๆ แล้วเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ชีวิตของตนเองให้มากที่สุด แล้วจึงวางแผนอย่างรอบคอบ คุณจะสามารถเป็นผู้ชนะในตลาดการเงินได้อย่างแน่นอน